Download APK
Download DATA
ไร้ทางออก!!! ผัวเมียคิดไม่ตกกินยาฆ่าตัวตายพร้อมกันทั้งคู่ ทิ้งจดหมายฝากให้ลูกทวงความยุติธรรมให้แม่ โดยมีเจ้าตัวนี้คอยเฝ้าศพไม่ห่าง!!!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (12 ก.พ.) เมื่อเวลา 18.30 น. สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุสามีภรรยากินยาฆ่าหญ้าเสียชีวิต อยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง ม.4 ชุมชนบ้านหนองขาม ถ.นิตโย ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบศพ นายอุดม อายุ 43 ปี และ น.ส.สุภารัตน์ อายุ 36 ปี นอนห่มผ้าเสียชีวิต อยู่บนที่นอนบริเวณด้านหน้าประตูบ้าน โดยมี นายอนุชิต อายุ 21 ปี บุตรชายคนเดียวของผู้เสียชีวิต นั่งร้องไห้อยู่ข้างศพ
ใกล้กันมีเจ้าโบ้ สุนัขพันทางยืนเฝ้าศพเจ้าของ โดยคำรามและเห่าไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้ามาใกล้ ต้องให้ลูกชายผู้เสียชีวิตนำไปขังไว้ในห้องน้ำหลังบ้าน ก่อนเข้าตรวจสอบรอบๆ บริเวณบ้าน
จากการตรวจสอบไม่มีร่องรอยการต่อสู้และถูกทำร้าย ข้างศพขวดยาฆ่าหญ้าและภาชนะที่ใส่ดื่มกิน พร้อมด้วยจดหมายลาตาย เขียนด้วยปากกาสีแดงลงด้านหลังกระดาษปฏิทิน จำนวน 2 แผ่น มีใจความว่า
ฉบับแรกนายอุดม เขียนถึงลูกชายว่า "อั๋นครับพ่อกับแม่จะไม่ได้อยู่กับอั๋นอีกแล้ว อั๋นรู้ไหมว่าพ่อกับแม่รักอั๋นแค่ไหน ตอนที่พ่อกับแม่จากลูกไปแล้วอั๋นไม่ต้องร้องไห้นะ พ่อกับแม่คงมีบุญแค่นี้ ตอนที่พ่อกับแม่ยังมีชีวิตอยู่ พ่อเคยพูดว่าจะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ครอบครัวมีความสุข แต่พ่อก็ทำไม่ได้
พ่อรู้สึกว่าพ่อเป็นคนทำให้แม่เป็นแบบนี้ พ่อไม่รู้จะพูดยังไงดี อั๋นคงไม่ว่าพ่อกับแม่ อีกนะลูกอั๋น พ่อขอให้ลูกอั๋นทวงความยุติธรรมให้กับแม่หน่อยนะลูก ว่ามีใครทำให้แม่เป็นแบบนี้ แล้วแม่จะเขียนรายละเอียดให้ลูกอั่นฟังนะลูก
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบศพ นายอุดม อายุ 43 ปี และ น.ส.สุภารัตน์ อายุ 36 ปี นอนห่มผ้าเสียชีวิต อยู่บนที่นอนบริเวณด้านหน้าประตูบ้าน โดยมี นายอนุชิต อายุ 21 ปี บุตรชายคนเดียวของผู้เสียชีวิต นั่งร้องไห้อยู่ข้างศพ
ใกล้กันมีเจ้าโบ้ สุนัขพันทางยืนเฝ้าศพเจ้าของ โดยคำรามและเห่าไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้ามาใกล้ ต้องให้ลูกชายผู้เสียชีวิตนำไปขังไว้ในห้องน้ำหลังบ้าน ก่อนเข้าตรวจสอบรอบๆ บริเวณบ้าน
จากการตรวจสอบไม่มีร่องรอยการต่อสู้และถูกทำร้าย ข้างศพขวดยาฆ่าหญ้าและภาชนะที่ใส่ดื่มกิน พร้อมด้วยจดหมายลาตาย เขียนด้วยปากกาสีแดงลงด้านหลังกระดาษปฏิทิน จำนวน 2 แผ่น มีใจความว่า
ฉบับแรกนายอุดม เขียนถึงลูกชายว่า "อั๋นครับพ่อกับแม่จะไม่ได้อยู่กับอั๋นอีกแล้ว อั๋นรู้ไหมว่าพ่อกับแม่รักอั๋นแค่ไหน ตอนที่พ่อกับแม่จากลูกไปแล้วอั๋นไม่ต้องร้องไห้นะ พ่อกับแม่คงมีบุญแค่นี้ ตอนที่พ่อกับแม่ยังมีชีวิตอยู่ พ่อเคยพูดว่าจะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ครอบครัวมีความสุข แต่พ่อก็ทำไม่ได้
พ่อรู้สึกว่าพ่อเป็นคนทำให้แม่เป็นแบบนี้ พ่อไม่รู้จะพูดยังไงดี อั๋นคงไม่ว่าพ่อกับแม่ อีกนะลูกอั๋น พ่อขอให้ลูกอั๋นทวงความยุติธรรมให้กับแม่หน่อยนะลูก ว่ามีใครทำให้แม่เป็นแบบนี้ แล้วแม่จะเขียนรายละเอียดให้ลูกอั่นฟังนะลูก
ฉบับที่ 2 น.ส.สุภารัตน์ เขียนว่า "อั๋นลูกรักแม่พ่อได้ทำบุญมาแค่นี้ ขอให้ลูกอยู่ตรงนี้มีความสุข สร้างฝันของตัวเองนะลูก แม่ พ่อทำบุญร่วมกันมาเท่านี้ แม่ไม่มีอะไรให้ลูก บ้านช่อง เงินทอง ไม่มี ขอให้ลูกสร้างด้วยลำแข้งตนเอง งานศพแม่ และพ่อ ขอให้ฝังไว้ด้วยกัน ไม่ต้องทำบุญ
แม่มีประกันสังคม เป็นเงิน 30,000-40,000 บาท นี่แหละ พ่อก็แค่ 20,000 บาท ห้ามเอาศพไปเผาแต่ให้ฝังไว้คู่กัน ของที่อยู่ในเอวพ่อ ให้ใส่เอวไว้ตลอดเวลา เรื่องคดีความแม่สานต่อด้วยนะ เงินศพให้ลูกเก็บไว้ รักลูกจากแม่ จอย พ่อดม"
ด้าน ร.ต.อ.ทิฐินันท์ ศรีเชียงหวาง พนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายอนุชิต บุตรชายคนเดียวของผู้เสียชีวิต และพบศพเป็นคนแรก ให้การว่า สาเหตุพ่อกับแม่ตัดสินใจฆ่าตัวตาย คาดว่าคงจะเครียดเรื่องเป็นหนี้บัตรเครดิต ในวงเงินราว 40,000 บาท และไม่มีบ้านอยู่เป็นของตัวเอง
แต่เรื่องที่ทั้งสองคนเครียดมากก็คือ แม่มีอาชีพแม่บ้านในร้านจำหน่ายเหล็กในตัวเมืองอุดรธานี และถูกนายจ้างลวนลามล่วงละเมิดทางเพศถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อปี 2552 ซึ่งก็ได้แจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองอุดรธานี เอาไว้แล้ว ไม่ทราบว่าคดีความจบลงหรือยัง แต่เห็นแม่กับพ่อว่าไม่ได้รับความยุติธรรม
ต่อมาช่วงหลังปีใหม่ 2559 แม่ก็ซึมเศร้าผิดปกติ พ่อเค้นสอบถามจนแม่เปิดปากออกมาว่า โดนนายจ้างล่วงละเมิดทางเพศเป็นรอบที่ 2 อีก เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ผ่านมา ทำให้ทั้งคู่เครียดและกลุ้มใจเป็นอย่างมาก หาทางออกเกรงไม่ได้รับความยุติธรรมเหมือนครั้งที่ผ่านมา จึงตัดสินใจฆ่าตัวตามด้วยกันในที่สุด
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้มอบศพให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป