Download
สุดเหี้ยมโหด!! ศพหนุ่มล่ามโซ่กับต้นไม้ ถูกรุมทุบจนตายข้อเท้าขาดวิ่น อีกรายชายนิรนามถูกไล่ยิง ขี่จยย.หนี ล้มคาถนน-มือปืนกลัวไม่ตายสมใจ-ตามรัวซ้ำ
โหด 4 คนร้ายซิ่งจยย.ประกบยิงหนุ่มร่างพรุน เหยื่อฝืนขับจยย.หนี เสียหลักล้มกลิ้งข้างถนน มือปืนหวั่นไม่ตาย ย้อนกลับมารัวด้วย 9 มม.ดับสยอง อีกรายพบศพชายหนุ่มนิรนามกลางหุบเขา มือถูกมัดด้วยโซ่กับโค่นต้นไม้ ข้อเท้า 2 ข้างขาดวิ่น ศีรษะและใบหน้าเหลือแต่กะโหลก คาดเสียชีวิตมาแล้ว 15-20 วัน
เวลา 01.20 น. วันที่ 17 ก.พ. ร.ต.ท.ชัยรัตน์ จันทร์อนันต์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.กาญจนบุรี ว่า เกิดเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ที่บริเวณถนนบายพาส หมู่ 9 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ
พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิศุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.บัญชา ศรีรุจิเมธากร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.ยุทธชัย มีสายมงคล สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ สภ.เมืองกาญจนบุรี แพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา รวมทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์
ที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชาย 1 ราย นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีขาวชมพู หมายเลขทะเบียน ขงง 482 กาญจนบุรี ใบหน้าและลำคอถูกยิงด้วยอาวุธขนาด 9 มม. และอาวุธปืนลูกซองไม่ทราบขนาดเป็นรูพรุน โดยรอบพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 2 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน หลังจากคณะแพทย์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นแล้ว จึงนำศพไปไว้ที่ รพ.พหลฯ พร้อมประสานให้ญาติมาดูศพ ก่อนที่จะนำส่งไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายเจษฎา แซ่เอี้ยว อายุ 32 ปี อยู่หมู่ 4 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
จากการสอบปากคำผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ขณะที่นายเจษฎา ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาเพียงลำพัง อยู่ๆ พบกลุ่มคนร้าย จำนวน 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายมา 2 คัน มาประกบรถจักรยานยนต์ที่นายเจษฎาขับขี่อยู่ โดย 1 ในคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่นายเจษฎาทันที 1 นัด ก่อนที่จะเร่งเครื่องหลบหนี แต่นายเจษฎายังไม่เสียชีวิต และได้ฝืนใจเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนี แต่สุดท้ายก็เสียหลักล้มลงข้างถนน เมื่อกลุ่มคนร้ายเห็น จึงขับขี่รถจักรยานยนต์ย้อนกลับมา และใช้อาวุธปืนยิงใส่อีก 2 นัด เมื่อกลุ่มคนร้ายมั่นใจว่านายเจษฎาเสียชีวิตจึงเร่งเครื่องหลบหนีไปกับความมืดอย่างรวดเร็ว
ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากเรื่องแค้นส่วนตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ตามเส้นทางดังกล่าว เพื่อติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อีกคดี เวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.มณิภัทร์ เพ็งเกร็ด พนักงานสอบสวน สภ.ลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่กำลังเข้าไปหาของป่าว่า พบศพเป็นชายนอนเสียชีวิตอยู่ใต้ต้นไม้ สภาพเน่าเปื่อย เหลือแต่กะโหลก อยู่ภายในป่าหุบเขาพื้นที่บ้านหนองสามพราน หมู่ 9 ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี หลังรับแจ้ง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิพนธ์ จันทร์ทอง ผกก.สภ.ลาดหญ้า พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ เครือวนิชธรรม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.ลาดหญ้า
พ.ต.ท.ก้องเกียรติ ตั้งกิตติกุล รอง ผกก.ป.สภ.ลาดหญ้า พ.ต.ท.พิชัย ธนาอัศวพันธ์ รอง ผกก.สส.สภ.ลาดหญ้า พ.ต.ท.ไพฑูรย์ ศรีวิชัย สวป.สภ.ลาดหญ้า พ.ต.ท.รถพร แร่ศรีจันทร์ สว.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ร.ต.ท.พัฒนา ภมรพล รอง สว.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลาดหญ้า แพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ แต่เนื่องจากสถานที่พบศพเป็นป่าและหุบเขา ไม่สามารถนำรถยนต์เข้าไปได้ เจ้าหน้าที่จึงจอดรถทิ้งไว้ริมถนนแล้วเดินเท้าเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร
เมื่อไปถึง พบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพที่เน่าเปื่อย ใบหน้าเห็นเพียงกะโหลก ข้อเท้าทั้ง 2 ข้างขาดหายไป ข้อมือทั้งสองข้างผูกด้วยโซ่ติดกับโค่นต้นไม้ การแต่งกายนุ่งกางเกงยีนส์ขายาว สวมเสื้อยืดสีเทาแขนยาว ที่เอวพบเข็มขัดแบบมีกระเป๋าคาดอยู่ ใกล้กันพบกระสอบสำหรับใส่ข้าวสาร 1 ใบ ภายในมีไฟแช็ก กาแฟ มีดพับ ยาสีฟัน ยาสระผม และหนังสติ๊ก เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีเงินสดอยู่อีกจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งสมุดสำหรับจดบันทึก มีอีกษรเป็นภาษาพม่าเขียนเอาไว้ และแป้งกระแจะที่แรงงานชาวพม่านิยมใช้ทาที่แก้มทั้งสองข้าง ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุไม่ได้นำทรัพย์สินของผู้ตายไปด้วย เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมสิ่งของทั้งหมดเอาไว้เป็นหลักฐาน
โดยจากการสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่า ผู้เสียชีวิตเป็นแรงงานชาวพม่า มีอายุระหว่า 30-40 ปี สูงประมาณ 160-165 เซนติเมตร เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 15-20 วัน
จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์พบว่า ที่บริเวณใบหน้ามีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งจนฟันกรามด้านล่างผิดรูป คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 2 คน โดยลงมือก่อเหตุอย่างเหี้ยมโหด ด้วยการจับล่ามโซ่ติดกับต้นไม้แล้วรุมทุบตีจนเสียชีวิต ซึ่งจะต้องนำศพไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงที่สถาบันนิติเวช ส่วนเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วต่อไป