ownload
สุดหลอน! 5 ตำนานเฮี้ยนของโรงเรียนไทย หนึ่งในนั้นอาจเป็นโรงเรียนคุณ!!
สุดหลอน! 5 ตำนานเฮี้ยนของโรงเรียนไทย หนึ่งในนั้นอาจเป็นโรงเรียนคุณ!!
ประเทศไทยเรา มักมีเรื่องเล่าขาน หรือตำนานสุดหลอน ชวนขนขนหัวลุกแทบทั้งนั้น หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น “โรงเรียน” ที่แต่ละสถานที่มักจะมีตำนานหลอนซ่อนอยู่ วันนี้เราจึงมี 5 ตำนานสุดเฮี้ยนของโรงเรียนแต่ละแห่งมาฝากกัน หนึ่งในนั้นอาจจะเป็นโรงเรียนของคุณก็ได้!!
5. เสียงปริศานาจากห้องน้ำ
เรื่องราวสุดเฮี้ยนเรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีห้องน้ำอยู่ข้างๆ ห้อมสมุด แต่ไม่ค่อยมีนักเรียนไปเข้านักเพราะมันไม่มีไฟ กระทั่งวันหนึ่งนักเรียนหญิงคนหนึ่งได้ชวนเพื่อนมาเข้าห้องน้ำที่นี่ โดนขณะที่คนนึงกำลังเข้าห้องน้ำและอีกคนเฝ้าอยู่ข้างนอก เพื่อนจากในห้องน้ำก็ตะโกนออกมาว่า “แกเป็นอะไรป่าว” ซ้ำไปซ้ำมา เพื่อนที่รออยู่คิดว่าถูกแกล้งจึงไม่ตอบ เพื่อนในห้องน้ำก็ถามอีกว่า “แกกรี๊ดทำไม?” “เป็นอะไรทำไมไม่ตอบ?” เพื่อนที่ยืนรอได้แต่งงและบอกว่าไม่ได้กรี๊ด และไม่ได้ยินเสียงกรี๊ดของใครแม้แต่น้อย ซึ่งเพื่อนในห้องน้ำยืนยันว่าตั้งแต่ปิดประตูห้องน้ำก็ได้ยินเสียงกรี๊ดตลอด ถ้าไม่ใช่เสียงเพื่อน…แล้วเป็นเสียงใครกัน!
4. ใครอยู่บนคาน
เรื่องราวสุดหลอนนี้เป็นเรื่องราวของโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้นำเชียร์แต่ละรุ่นเล่าต่อๆ กันมา โดยในช่วงกีฬาสีนักเรียและครูต้องอยู่ที่โรงเรียนกันจนดึก ขณะที่เชียร์หลีดเดอร์กำลังซ้อมเต้นอยู่ จู่ๆ คนที่ขึ้นไปอยู่บนยอดของการต่อตัวก็กรีดร้องออกมาดังลั่น! ทุกคนจึงมองขึ้นไปก็ได้เห็นผู้หญิงผมยาว ตัวซีดเซียว ใส่ชุดขาวนั่งอยู่บนคาน พร้อมกับจ้องมองลงมาและปรบมือให้! ทำเอาทุกคนแตกตื่นและวิ่งหนีออกจากโรงอาหารโดยเร็วที่สุด
3. โรงเรียนหรือลานประหาร
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่สมัยก่อนเคยเป็นที่อยู่ของนักโทษประหาร วันหนึ่งอาจารย์ได้สอนนักเรียนจนล่วงเวลา ทำให้เด็กๆ ต้องกลับค่ำ ขณะที่กำลังกลับ ได้มีเพื่อนคนหนึ่งลืมของไว้บนห้อง จึงบอกให้เพื่อรอก่อนเพราะจะกลับไปเอาของ ซึ่งคนอื่นๆ เดินลงไปกันหมดแล้ว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเพลงคล้ายๆ เพลงรำสวดและมีเสียงแว่วมาว่า “อย่าๆ ผมไม่ไป ปล่อยผม! อย่าทำผมเลย” เพื่อนอีกคนเริ่มกลัวจึงเดินลงไปก่อน แต่ก็ได้มีมือมาจับไว้ หันไปเป็นเพื่อนนั้นเอง ทั้งสองมองหน้ากัน อีกทั้งได้ยินเสียงโซ่ลากตามพื้น ทั้งคู่จึงวิ่งลงมาอย่างไม่คิดชีวิต จู่ๆ เพื่อนคนนึงก็หยุดกระทันหัน สะบัดมือออก อีกคนรู้ในทันทีว่านี่ไม่ใช่เพื่อนของตนแล้ว! เพื่อนอีกคนจึงเดินตามไป และตบหน้าพร้อมเรียกชื่อไม่หยุด สักพักจึงได้สติวิ่งต่อ เพื่อนที่ถูกผีสิงเล่าว่า อยู่ดีๆ ก็ไม่รู้สึกตัว แต่เห็นเพื่อนยืนอยู่อีกฝั่งจึงเดินไปหาโดยไม่รู้ตัว แต่พอมองดีๆ กลับเห็นชายถูกล่ามโซ่ตรวนยืนอยู่!
2. ชายที่ต้นโพธิ์ในโรงเรียน
เย็นวันหนึ่งได้มีกลุ่มเด็กหญิงไปนักพักอยู่ใต้ต้นไม้ที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง สักพักมีใบโพธิ์หล่นมาอยู่ข้างๆ ซึ่งเด็กหญิงคนหนึ่งที่มีเซ้นท์ด้านสิ่งลี้ลับ จู่ๆ เธอได้เดินวนรอบๆ ต้นโพธิ์และสัมผัสมัน ลมก็ได้พักมาวูบหนึ่งพร้อมกันเสียง “ฮึ่ม” ของใครก็ไม่รู้ เธอสะดุ้ง และได้บอกเพื่อนๆ ให้รีบกลับบ้าน และเธอก็ได้รู้ว่าเมื่อ 5 ปีก่อนได้มีชายมาแขวนคอตาย แต่ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นกับเธอ เช่น หางตาก็เหลือบไปเห็นผู้ชายคนนั้น แต่พอหันไปกลับไม่เห็นใคร เธอจึงคิดว่าเขาตามเธอมาแน่ๆ ทำให้เธอกลัว เมื่อไปปรึกษากับเพื่อนพบว่าเพื่อนๆ ก็เจอเหตุการณ์ประหลาดเช่นกัน จึงตัดสินใจไปทำบุญกรวดน้ำให้กับวิณญาณชายคนนั้น แต่ขณะที่เธอกำลังแผ่บุญกุศลให้อยู่นั้น เธอได้มองขึ้นไปและเห็นเงาสะท้อนในกระจก สิ่งที่สะท้อนกลับมาทำให้เธอกลัวสุดขีด เพราะเงาในกระจกปรากฏให้เห็น เงาของผู้ชายนั่งยองๆ อยู่ข้างหลัง และมือของเขาแตะอยู่ที่ไหล่เธอขณะกรวดน้ำ! เธอจึงภาวนาให้เขาไปสู่สุขติ
1. ผีเด็กยุวกาชาด
เรื่องราวชวนขนหัวลุกเรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดเลย ซึ่งนักเรียน ม.ต้น จะต้องใส่ชุดยุวกาชาด วันหนึ่งทางโรงเรียนได้รื้อห้องน้ำใต้อาคารและจะสร้างเป็นห้องพักครูแทน ส่วนห้องพักครูเดิมจะทำเป็นห้องวิทยาศาสตร์ ต่อมาได้มีเด็กกลุ่มหนึ่งคิดจะลองของในห้องพักครูเก่า เพื่อนที่ขวัญอ่อนที่สุกเดินเข้าไปและได้กรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น เมื่อได้เห็นว่าบนเพดานมีผู้หญิงผมยาวก้มหน้าลงมาพวกพวกเขา ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปอีก แต่แล้วอาจารย์ได้ให้เด็กนักเรียนเข้าไปทำความสะอาดห้องวิทยาศาสตร์ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ทุกคนต่างได้เห็น เด็กผู้หญิงผมยาวใส่ชุดยุวกาชาด บางวันก็ใส่ชุดนักเรียนแต่ไม่ปักชื่อ นั่งไขว้ห่างอยู่บนเพดาน ที่สำคัญเด็กคนนั้นไม่มีใบหน้า! เหตุการณ์สุดระทึกเริ่มขึ้นเมื่อห้องวิทยาศาสตร์ถูกใช้เป็นห้องฝึกซ้อมการแข่งขันสวดมนต์แปล นักเรียนที่เข้าแข่งขันเกิดร้องไห้ ถามอะไรไม่ตอบ เมื่อได้สติเธอบอกว่ามีคนร้องไห้อยู่ข้างหลัง ไม่กล้ามอง อยู่ดีๆ ก็ร้องไห้ออกมาเอง ระหว่างนั้นประตูห้องเกิดปิดอย่างแรง ทำให้ทุกคนวิ่งออกมาหมด ต่างก็เรียกห้องนั้นว่า “ห้องผีสิง” มีอาจารย์คนหนึ่งบอกว่า เดิมทีโรงเรียนเป็นเพียงสนามว่างเปล่า จนกระทั่งมีข่าว….และก็ไม่ได้เล่าต่อ จนปัจจุบันยังไม่มีใครรู้ว่าเด็กหญิงในชุดยุวกาชาดไม่มีหน้าคนนั้นเป็นใคร?
ขอบคุณข้อมูลจาก : lifestyle
เรียบเรียงโดย BEBE ทีม baabinz.com
เรื่องราวสุดเฮี้ยนเรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีห้องน้ำอยู่ข้างๆ ห้อมสมุด แต่ไม่ค่อยมีนักเรียนไปเข้านักเพราะมันไม่มีไฟ กระทั่งวันหนึ่งนักเรียนหญิงคนหนึ่งได้ชวนเพื่อนมาเข้าห้องน้ำที่นี่ โดนขณะที่คนนึงกำลังเข้าห้องน้ำและอีกคนเฝ้าอยู่ข้างนอก เพื่อนจากในห้องน้ำก็ตะโกนออกมาว่า “แกเป็นอะไรป่าว” ซ้ำไปซ้ำมา เพื่อนที่รออยู่คิดว่าถูกแกล้งจึงไม่ตอบ เพื่อนในห้องน้ำก็ถามอีกว่า “แกกรี๊ดทำไม?” “เป็นอะไรทำไมไม่ตอบ?” เพื่อนที่ยืนรอได้แต่งงและบอกว่าไม่ได้กรี๊ด และไม่ได้ยินเสียงกรี๊ดของใครแม้แต่น้อย ซึ่งเพื่อนในห้องน้ำยืนยันว่าตั้งแต่ปิดประตูห้องน้ำก็ได้ยินเสียงกรี๊ดตลอด ถ้าไม่ใช่เสียงเพื่อน…แล้วเป็นเสียงใครกัน!
4. ใครอยู่บนคาน
เรื่องราวสุดหลอนนี้เป็นเรื่องราวของโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้นำเชียร์แต่ละรุ่นเล่าต่อๆ กันมา โดยในช่วงกีฬาสีนักเรียและครูต้องอยู่ที่โรงเรียนกันจนดึก ขณะที่เชียร์หลีดเดอร์กำลังซ้อมเต้นอยู่ จู่ๆ คนที่ขึ้นไปอยู่บนยอดของการต่อตัวก็กรีดร้องออกมาดังลั่น! ทุกคนจึงมองขึ้นไปก็ได้เห็นผู้หญิงผมยาว ตัวซีดเซียว ใส่ชุดขาวนั่งอยู่บนคาน พร้อมกับจ้องมองลงมาและปรบมือให้! ทำเอาทุกคนแตกตื่นและวิ่งหนีออกจากโรงอาหารโดยเร็วที่สุด
3. โรงเรียนหรือลานประหาร
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่สมัยก่อนเคยเป็นที่อยู่ของนักโทษประหาร วันหนึ่งอาจารย์ได้สอนนักเรียนจนล่วงเวลา ทำให้เด็กๆ ต้องกลับค่ำ ขณะที่กำลังกลับ ได้มีเพื่อนคนหนึ่งลืมของไว้บนห้อง จึงบอกให้เพื่อรอก่อนเพราะจะกลับไปเอาของ ซึ่งคนอื่นๆ เดินลงไปกันหมดแล้ว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเพลงคล้ายๆ เพลงรำสวดและมีเสียงแว่วมาว่า “อย่าๆ ผมไม่ไป ปล่อยผม! อย่าทำผมเลย” เพื่อนอีกคนเริ่มกลัวจึงเดินลงไปก่อน แต่ก็ได้มีมือมาจับไว้ หันไปเป็นเพื่อนนั้นเอง ทั้งสองมองหน้ากัน อีกทั้งได้ยินเสียงโซ่ลากตามพื้น ทั้งคู่จึงวิ่งลงมาอย่างไม่คิดชีวิต จู่ๆ เพื่อนคนนึงก็หยุดกระทันหัน สะบัดมือออก อีกคนรู้ในทันทีว่านี่ไม่ใช่เพื่อนของตนแล้ว! เพื่อนอีกคนจึงเดินตามไป และตบหน้าพร้อมเรียกชื่อไม่หยุด สักพักจึงได้สติวิ่งต่อ เพื่อนที่ถูกผีสิงเล่าว่า อยู่ดีๆ ก็ไม่รู้สึกตัว แต่เห็นเพื่อนยืนอยู่อีกฝั่งจึงเดินไปหาโดยไม่รู้ตัว แต่พอมองดีๆ กลับเห็นชายถูกล่ามโซ่ตรวนยืนอยู่!
2. ชายที่ต้นโพธิ์ในโรงเรียน
เย็นวันหนึ่งได้มีกลุ่มเด็กหญิงไปนักพักอยู่ใต้ต้นไม้ที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง สักพักมีใบโพธิ์หล่นมาอยู่ข้างๆ ซึ่งเด็กหญิงคนหนึ่งที่มีเซ้นท์ด้านสิ่งลี้ลับ จู่ๆ เธอได้เดินวนรอบๆ ต้นโพธิ์และสัมผัสมัน ลมก็ได้พักมาวูบหนึ่งพร้อมกันเสียง “ฮึ่ม” ของใครก็ไม่รู้ เธอสะดุ้ง และได้บอกเพื่อนๆ ให้รีบกลับบ้าน และเธอก็ได้รู้ว่าเมื่อ 5 ปีก่อนได้มีชายมาแขวนคอตาย แต่ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นกับเธอ เช่น หางตาก็เหลือบไปเห็นผู้ชายคนนั้น แต่พอหันไปกลับไม่เห็นใคร เธอจึงคิดว่าเขาตามเธอมาแน่ๆ ทำให้เธอกลัว เมื่อไปปรึกษากับเพื่อนพบว่าเพื่อนๆ ก็เจอเหตุการณ์ประหลาดเช่นกัน จึงตัดสินใจไปทำบุญกรวดน้ำให้กับวิณญาณชายคนนั้น แต่ขณะที่เธอกำลังแผ่บุญกุศลให้อยู่นั้น เธอได้มองขึ้นไปและเห็นเงาสะท้อนในกระจก สิ่งที่สะท้อนกลับมาทำให้เธอกลัวสุดขีด เพราะเงาในกระจกปรากฏให้เห็น เงาของผู้ชายนั่งยองๆ อยู่ข้างหลัง และมือของเขาแตะอยู่ที่ไหล่เธอขณะกรวดน้ำ! เธอจึงภาวนาให้เขาไปสู่สุขติ
1. ผีเด็กยุวกาชาด
เรื่องราวชวนขนหัวลุกเรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดเลย ซึ่งนักเรียน ม.ต้น จะต้องใส่ชุดยุวกาชาด วันหนึ่งทางโรงเรียนได้รื้อห้องน้ำใต้อาคารและจะสร้างเป็นห้องพักครูแทน ส่วนห้องพักครูเดิมจะทำเป็นห้องวิทยาศาสตร์ ต่อมาได้มีเด็กกลุ่มหนึ่งคิดจะลองของในห้องพักครูเก่า เพื่อนที่ขวัญอ่อนที่สุกเดินเข้าไปและได้กรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น เมื่อได้เห็นว่าบนเพดานมีผู้หญิงผมยาวก้มหน้าลงมาพวกพวกเขา ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปอีก แต่แล้วอาจารย์ได้ให้เด็กนักเรียนเข้าไปทำความสะอาดห้องวิทยาศาสตร์ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ทุกคนต่างได้เห็น เด็กผู้หญิงผมยาวใส่ชุดยุวกาชาด บางวันก็ใส่ชุดนักเรียนแต่ไม่ปักชื่อ นั่งไขว้ห่างอยู่บนเพดาน ที่สำคัญเด็กคนนั้นไม่มีใบหน้า! เหตุการณ์สุดระทึกเริ่มขึ้นเมื่อห้องวิทยาศาสตร์ถูกใช้เป็นห้องฝึกซ้อมการแข่งขันสวดมนต์แปล นักเรียนที่เข้าแข่งขันเกิดร้องไห้ ถามอะไรไม่ตอบ เมื่อได้สติเธอบอกว่ามีคนร้องไห้อยู่ข้างหลัง ไม่กล้ามอง อยู่ดีๆ ก็ร้องไห้ออกมาเอง ระหว่างนั้นประตูห้องเกิดปิดอย่างแรง ทำให้ทุกคนวิ่งออกมาหมด ต่างก็เรียกห้องนั้นว่า “ห้องผีสิง” มีอาจารย์คนหนึ่งบอกว่า เดิมทีโรงเรียนเป็นเพียงสนามว่างเปล่า จนกระทั่งมีข่าว….และก็ไม่ได้เล่าต่อ จนปัจจุบันยังไม่มีใครรู้ว่าเด็กหญิงในชุดยุวกาชาดไม่มีหน้าคนนั้นเป็นใคร?
ขอบคุณข้อมูลจาก : lifestyle
เรียบเรียงโดย BEBE ทีม baabinz.com